จากที่ผมได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าเป็นกรรมการสภาวิชาการ จากตัวแทนของคณะฯ
และจากการที่ได้ดำรงหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว มาเป็นเวลาเข้าสมัยที่สอง
ในสมัยแรก หลายคนอาจจะมองว่า ทำไมผมจึงไม่ค่อยมีบทบาทอะไรในสภา
อาจจะมองว่า เข้าไปนั่งให้ครบองค์ประชุม แล้วรับตังค์กลับมา เท่านั้น
ขอให้พื้นที่นี้ในการชี้แจง
เพราะกรรมการหลาย ๆ ชุดที่ผมมีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม ก็มีความแตกต่างกันไป และสามารถแสดงบทบาทที่ต่างกันด้วย
ในกรรมการสภาวิชาการสมัยแรกนั้น...ยอมรับว่าใหม่ในบทบาทกรรมการสภาฯ
หลายประเด็นปัญหา ก็มีโอกาสที่ได้เข้าไปปรึกษากับ ผอ.และได้รับการชี้แจง เพื่อปรับแก้
ผมจึงไม่จำเป็นต้องนำเสนอในสภาฯอีก
หลักๆ การดำเนินการกิจกรรมในสภาวิชาการ ที่ผมมีความรู้สึกว่าเข้มข้นนั้น คือ
การพิจารณาหลักสูตร ซึ่งบางครั้งดูเหมือนการ ตรวจเล่มปริญญานินธ์ หรือการจับผิดเอกสารของนักศึกษาปริญญาโทมากกว่า
แต่ถึงแม้ดูว่าเป็นเช่นนั้น มันก็ยังเป็นเรื่องที่พวกเราพึงกระทำอยู่ดี
โดยกรรมการฯอย่างผม และเพื่อนสมาชิกอีก 3-4 ท่านนั้น อาจจะไม่เคยรู้เลยก็ได้ว่า สิ่งที่เรากำลังพิจารณากันอยู่ มันคือสาระสำคัญที่ สกอ.เขาสนใจหรือไม่
เข้าสู่สมัยที่สอง ผมอาจจะมีเรื่องราวอะไรนำเข้าปรึกษาในสภาฯ มากขึ้นด้วยเหตุผลเดียวคือ
"ผมเป็นตัวแทนคณาจารย์จากคณะ"
และผมอยากเห็นการพัฒนาในการเชิงแสดงความคิดเห็นที่เป็นเชิงสร้างสรรค์
สงสัย คือ ถาม รู้อะไร ก็ อธิบาย บนพื้นฐานของตรรก ที่กล้ายอมรับได้ในทุก ๆ มิติของความคิดเห็น ซึ่งย่อมเกิดความขัดแย้งบ้าง
แต่หากเป้าหมายคือสิ่งเดียวกัน
สุดท้าย มันต้องหาทางออกที่ดีได้อย่างแน่นอน
สมพล บุญญสุวรรณโณ