และข้าราชการไทย
หลายๆ ครั้งที่ผมมีข้อสงสัย เกี่ยวกับการแต่งตัว การแต่งกาย
ของคนไทยในกลุ่มของข้าราชการ พนักงานของรัฐ หรือกลุ่มนักการเมืองในสภาก็ตาม
จะเห็นว่ามักแต่งกายด้วยชุดสากล นั่นคือ ใส่สูทผูกไทด์
ด้วยภาพลักษณ์ที่ทำให้ดูสุภาพ สวยงาม นั้น ผมเข้าใจ เพราะการแต่งกายดังกล่าว เราคุ้นชินกับการรับรู้และมองเห็นผ่านสื่อต่างๆ
---มีใครเคยดูตอนที่ สตีฟ จ็อปส์ (CEO Apple) เปิดตัวไอโฟนบ้าง---
นั่นแปลว่า การแต่งกาย ด้วยสูท ไม่ได้บ่งบอกว่า จะส่งเสริมกระบวนการคิดด้วยสมองได้ดีกว่าการแต่งกายด้วยชุดอื่นๆ
ผมมีข้อมูลสำคัญๆ ทางด้านเทคนิค หลายเรื่อง ที่จะนำมาสนับสนุนข้อมูลของผม
ประเทศไทยอยู่เหนือแนวเส้นศูนย์สูตร เล็กน้อย ประเทศสิงคโปร์ น่าจะอยู่ตรงแนวเส้นศูนย์สูตรพอดี ผมได้มีโอกาสไปพบปะพูดคุยกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในประเทศสิงคโปร์ การแต่งกายเขาเป็นเพียงเชิ้ต กับสแลคธรรมดาปกติ เพราะติดเขตร้อน
... แต่เชื่อไหมครับว่า คุณภาพการศึกษาของเขาติดอันดับระดับโลกหลายเรื่องด้วยกัน
อย่างที่แจ้งในข้างต้นว่า ประเทศไทยอยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรไม่มาก (ดวงอาทิตย์ห่างจากจุดตั้งฉากประมาณ 11 องศา) คนโบราณจึงคิดเรื่องเนื้อผ้า และการแต่งกายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น การใส่สูทผูกเน็คไท ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตในประเทศไทยอย่างร้ายแรง
ลองมาดูข้อดีที่ได้จากการใส่สูทผู้เน็คไทในเมืองไทย
1. สุภาพเรียบร้อย
2. ดูมีอารยธรรม
3. ดูน่าเชื่อถือ
ลองมาดูข้อดีที่ได้จากการเลิกใส่สูทผู้เน็คไทในเมืองไทย
1. ลดความร้อนในร่างกาย
2. ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเนื่องจากการเพิ่มความเย็นเครื่องปรับอากาศ
3. ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเนื่องจากการซัก รีด
4. ประหยัดไฟ-น้ำเพิ่มขึ้น ลดรายจ่าย
5. เมื่อร่างกายไม่ร้อน ทำให้ร่างกายและสมองมีความพร้อมในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ
6. ความร้อนสะสมในร่างกายน้อย ทำให้สามารถทำงานได้มากขึ้น
7. มีโอกาสพัฒนาเครื่องแต่งกายที่พัฒนาจากผ้าไทยตามภูมิปัญญาท้องถิ่น
8. สะดวก และรวดเร็วในการเคลื่อนไหว
มันอยู่ที่เราจะทำอย่างไรให้การแต่งตัวด้วยเสื้อยืด ทีเชิ้ต กับสแลค ดูเรียบร้อยจนรู้สึกเคยชิน
แล้วมันจะดูสุภาพ และเรียบร้อยได้เอง
ทีนี้กลับมาดูบางมหาวิทยาลัย ที่ประกาศตัวเองว่าจะต้อง
"เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ..."
หากยังไม่หาทาง หรือคิดแนวคิด ที่นรอบด้าน ยากมากที่จะขึ้นนำได้
เพราะตลอดเวลา และตลอดแนวคิด ยังคงคิดตาม และเดินตามหลังคนอื่นเขา
ยากมากที่จะตามทัน นี่เอาแค่ตามนะครับ ยังไม่นับถึงการตีเสมอ และนำหน้าเลย
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะคิด และทำสิ่งที่แตกต่างอย่างเข้าที
จะมีหน่วยงานใดในโลก ที่ควรกระทำตนเป็นตัวอย่าง หรือแบบอย่าง เพื่อให้คนในสังคมได้ดู
ก็ต้องเป็นนห่วยงานราชการ หน่วยงานทางการศึกษานี้แหล่ะ ที่ต้องทำเป็นตัวอย่าง
เช่น
ประกาศตนเป็น มหาวิทยาลัยที่เป็นผู้นำในด้านการประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงาน อย่างมีนัยสำคัญ
เปลี่ยนการแต่งกายให้สามารถรองรับการตั้งค่าความเย็นของระบบปรับอากาศให้ได้ที่ 27 องศา
มีความเป็นอัตลักษณ์ของบุคลากรที่โดดเด่น และเท่าเทียมกัน
แล้วมาวัดกันว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลง สามารถทำได้จริง แล้วเอาเข้าประกวดจัดอันดับกันไปเลย
