วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มาดูนิสัยน้องหมาแต่ละสายพันธุ์กัน



สุนัขแต่ละพันธุ์ก็จะมีลักษณะภายนอก รวมถึงอุปนิสัยที่แตกต่างกันไป

ดังนั้นก่อนที่จะเลี้ยง เราควรจะศึกษานิสัยของสุนัขพันธุ์ที่จะเลี้ยงให้ดีเสียก่อน

รวมทั้งดูความเหมาะสมด้วยว่า นิสัยหรือลักษณะเฉพาะอื่นๆ เหมาะกับเราหรือไม่

จริงอยู่ นิสัยของสุนัขอาจจะเปลี่ยนไปตามการเลี้ยงดูของเรา แต่นิสัยประจำพันธุ์ของเค้า ก็ยังเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้

ก็เลยนำลักษณะนิสัยของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกัน มาฝากค่ะ
 


1.ปั๊ก : Pug





เป็นสุนัขหน้าตายับย่นที่มีเสน่ห์สุดบรรยาย "ปั๊ก" เป็นสุนัขเก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง ว่ากันว่าเคยเป็นสุนัขในพระราชสำนักยุคพระนางซูสีไทเฮา "ปั๊ก" ติดคนรักและเจ้าของชนิดนั่งมองหน้าได้กันเป็นวัน อายุยืน  เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน  แต่แพ้อากาศร้อน จึงไม่เหมาะจะเลี้ยงไว้นอกบ้าน



2.โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ : Golden Retriever





หากคุณต้องการมีสุนัขที่รักคุณแบบมอบกายถวายชีวิต คุรจะต้องเลือก"โกลเด้น รีทรีฟเวอร์"  เพราะแววตาที่เขามองคุณนั้นเปี่ยมล้นด้วยความรัก   มีขนสีทองสลวย รูปร่างสง่างาม ฉลาด ฝึกง่าย กระตือรือร้น แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะเป็นมิตรกับทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งขโมย



3.ไซบีเรียน ฮัสกี้ : Siberian Husky 





สุนัขสัญชาติรัสเซีย มีขนสวยและหนา ตาแปลกและสวยมาก รูปร่างสง่างาม ปราดเปรียว ว่องไว รักอิสระ ไม่ชอบถูกกักขัง และมีพลังงานเหลือเฟือ หากคิดจะเลี้ยงพันธุ์นี้ต้องมีอาณาบริเวณให้เค้าวิ่ง และรั้วรอบขอบชิดพอสมควร ไม่งั้นอาจหายได้(อ่ะ..ล้อเล่นจ้ะ)



4.บาสเซ็ทฮาว : Baseset Hound





เป็นสุนัขขนาดกระทัดรัด หูยาว ขาสั้น เมื่อเทียบกับขนาดลำตัว มีขน2-3สี นิสัยร่าเริง รักอิสระมองโลกสดใส ถ้าไม่ได้เจ็บป่วยจริงจะไม่เห็น บาสเซ็ทฮาว ซึมเศร้าเลย จึงเหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน



5.เวสตี้ : Westie (West Highland White Terrier) 





เป็นสุนัขสีขาวยอดนิยม แต่มีไม่มากนัก มีเสน่ห์ ร่าเริง น่ารัก ช่างประจบและขนาดเล็ก น้ำหนักโตสุดไม่เกิน8กก. เวสตี้เป็นหมาติดคนอย่างมาก จัดเป็นสุนัขที่เป็นได้ทั้งเพื่อนและอารักขา (แบบจุ๋มจิ๋ม) เพราะหูไว เห่าเก่ง (แต่ไม่พร่ำเพื่อ)

 

6.ชิวาวา : Chihuahua





เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุด จึงนิยมใส่กระเป๋าพกติดตัวไปทุกที่  เห็นตัวเล้กอย่างนี้ ลักษณะเด่นคือ ความสง่างาม คล่องแคล่วว่องไว และตื่นตัวตลอดเวลา ขนสั้น

 

7.เฟรนซ์ บลูด๊อก : French Bull Dog





สุนัขสัญชาติฝรั่งเศส ขนาดกระทัดรัด แข็งแรง มีหูคล้ายค้างคาว นิสัยขี้เล่น หนังบริเวณลุกกระเดือกค่อนข้างย่น ขนมีหลายสี ทั้งน้ำตาล ขาว ขาว-น้ำตาล ขนสั้นนุ่ม น่ากอดน่าสัมผัส ถ้าปล่อยให้อ้วนมักมีปัญหาทางเดินหายใจ

 

8.บิชอง ฟริเซ่ : Bichon Frise





นิสัยร่าเริงแจ่มใส ขนสีขาวปุกปุยเหมือนปุยเมฆ น้ำหนักเพียง3-6กก.

 

9.ชิสุ : Shih Tzu





มีความโดดเด่นที่ขนสวย แต่งทรงได้หลากหลาย  มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่ชอบการฝึกสอน ชอบให้คุณมาอุ้มมากกว่าที่จะเดินไปให้อุ้ม คุณต้องอ้อนเค้า.....ไม่ใช่รอให้มาอ้อนคุณ

 

10.แจ็ค รัสเซล เทอร์เรีย : Jack Russell Terrier





สุนัขตระกูลผู้ดีอังกฤษ นิสัยร่าเริง เป็นกันเอง แบบสุดๆ กระทัดรัด ขาสั้น รักสนุก กระตือรือร้น เป็นมิตร จงรักภักดีต่อเจ้าของ และใช้เฝ้าบ้านได้ดีเยี่ยม

โดย: Antinea    เวลา: 2010-7-4 23:58

11.บีเกิ้ล : Beagle





กินเก่ง แบบยอมตายดีกว่าจะอด และมีจมูกดมกลิ่นเป็นเลิศ และมักจดจ่อต่อกลิ่นที่สนใจเป็นเยี่ยม เป็นสุนัขยอดนิยมในอเมริกา (และเราจำได้ว่าเป็นพระเอกหนังเรื่อง Under Dog ด้วยนะ)

 

12.มินิเจอร์ ชเนาเซอร์ : Miniature Schnauzer





มีขนตายาวเป็นพุ่ม ขนรอบปากยาวรุงรัง จึงต้องตัดแต่ง คางมีเครายาวเหมือนแพะ นิสัยเป็นมิตร ร่าเริง ขี้อ้อนเหลือร้าย

 

13.ลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์ : Labador Retriever





มีนิสัยตอบสนองเร็ว เป็นมิตร สงบ เรียบร้อย ซื่อสัตย์ ฉลาด รักเจ้าของ นิยมนำมาฝึกให้นำคนตาบอด และทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพ โครงสร้างบึกบึน น่าเกรงขาม

 

14.เซนต์ เบอร์นาร์ด : Saint Bernard





เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ มีกำลังมาก  มีนิสัยชอบช่วยเหลือ สุภาพอ่อนโยน ผิดกับรูปร่างที่น่าเกรงขาม

 

15.ปอมเมอเรเนียน : Pomeranian





มีขนหนาหลายชั้น ร่าเริง ฉลาดขี้อ่อน อยากรู้อยากเห็น แววตาแสดงถึงความฉลาดอย่างชัดเจน

 

16.อัลเซเชี่ยน : German Shepherd หรือ Alsatian





เป็นสุนัขที่ฉลาด เป็นมิตร การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งตั้งแต่เล็กจะช่วยดึงความสามารถพิเศษของเค้าออกมา

 

17.ดัชชุน : Dach shund





ลำตัวยาว ขาสั้น (รู้สึกว่าหิ่งห้อยก็มีเชื้อดัชชุนอยู่นิดหนึ่งนะ) แบ่งย่อยได้หลายสายพันธุ์  ขนเรียบ ขนยาว ขนหยิก ร่าเริง ฉลาด ดมกลิ่นดีเยี่ยม ความอดทนสูง สามารถเฝ้ายามได้ดี เป็นสัตว์ที่ตื่นตัวเสมอ และเห่าเสียงดัง



18. บลูด็อก : Bulldog





เป็นสุนัขที่มีกำลังมากและตัวใหญ่ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ เชื่อง ฉลาด อดทน  มีขนสั้นตรง นุ่ม มีสีน้ำตาล-ขาว  น้ำตาล-แดง  หรือหลายสีปนกัน เช่นน้ำตาลมีปื้นขาว

 

19.เชา เชา : Chow Chow





มีต้นกำเนิดที่ประเทศจีน เป็นพันธุ์ขนหยาบ มีขนหนาหลายชั้นและฟูตรง นิสัยร่าเริง รักอิสระ กล้าหาญ ฉลาด รักเจ้าของ นิยมใช้เฝ้าบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์เดียวที่มีลิ้นดำ

 

20.ร็อตไวเลอร์ : Rottweiler





มีสีดำตลอดตัว อาจมีสีน้ำตาลปนเข้มบ้างเล็กน้อย มีโครงสร้างแข็งแรงมาก เป็นสุนัขที่ฉลาด ฝึกง่าย และรักที่จะทำงาน มีนิสัยมุ่งมั่นหวงแหนเขตแดนอย่างมาก จึงมักมีอารมณ์ดุร้ายได้หากโดนแกล้งหรือแหย่ให้โมโห แต่ถ้าเลี้ยงแบบให้ความรักเค้าและอ่อนโยนต่อเค้า คุณก็จะได้อารมณ์เยี่ยงนั้นกลับมาเป็นทวีคูณ

โดย: Antinea    เวลา: 2010-7-4 23:59

21.บอสตัน เทอร์เรีย : Boston Terrier 





ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา นิสัยกล้าหาญ ร่าเริง และฉลาด เหมาพเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในบ้าน ไม่ค่อยอยู่นิ่ง

 

22.ยอร์คเชีย เทอร์เรีย : Yorkshire Terrier 





มีขนยาวเป็นมัน เรียบตรงและนิ่มสลวยเหมือนเส้นไหม เป็นสุนัขเลี้ยงง่าย นอกจากเรื่องขนที่ต้องดูแลแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้จุกจิกกวนใจ เป็นสุนัขฉลาด กล้าหาญเกินขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว ชอบทำตัวเป็นผู้นำจ่าฝูง มีจริตกิริยาที่น่ารัก

 

23.พุดเดิ้ล : Poodle





เป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงในบ้านเรา ทั้งพุดเดิ้ลทอย และ ทีคัพ นิสัยคล้ายกันทั้ง 2 พันธุ์  คือขี้อ้อน เรียกร้องความรักสุดๆ และมีความรักให้เจ้าของเหลือเฟือ  มีขนหยิกหนา คนเลี้ยงจะสนุกกับการทำ grooming สีทีนิยมมีทั้งขาว น้ำตาลและดำ

 

24.มอลทีส : Maltese





เป็นสุนัขตระกูลทอย เหมาะสำหรับคนที่ชอบสุนัขแบบคุณหนู เพราะตัวเล็ก อ้วนกลม ขาวสะอาดแต่ไม่บอบบาง ตรงข้ามกลับเป็นสุนัขเลี้ยงง่าย มีขนละเอียดอ่อนเหมือนสำลีผสมไหม หน้าหวาน ตาโต เลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดี แต่เฝ้าบ้านไม่ได้เพราะแทบไม่เห่าและไม่ระแวงใครเลย

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Honda Uni-CAB เบื่อเดินต้องคันนี้


ตั้งแต่มีการพัฒนาระบบเคลื่อนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางต่างๆขึ้นมารถยนต์คือสิ่งแรกที่เกิดขึ้น ต่อจากจักรยาน และ จักรยานยนต์ แต่ทุกวันนี้รถยนต์ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญที่ไม่ว่าใรก็อยากจะจับจองเป็นเจ้าของเมื่อต้องการความสะดวกสบาย
                รถยนต์อาจจะเป็นทางเลือกสำคัญของการเดินทางแต่มันคงใช้ไม่ได้ ถ้าคุณอยากจะเดินทางใกล้ๆ ไม่ไกลมาก เช่นในสักนักงาน หรือบริเวณบ้าน โดนที่ไม่ต้องเดินไปให้เมื่อตุ้ม ทว่า Honda มีทางออกที่เพิ่งแนะนำภายใต้ชื่อ  Honda Uni-Cab
                เจ้าอุปกรณ์เดินทางน้องใหม่ Honda Unicab  คือ การปฏิวัติการเดินทางยุคหน้า แซงหน้าหลายค่ายรถยนต์จากเยอรมันที่คิดทำจักรยาน หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เราเห้นกันมานักต่อ โดย Honda Uni-cab นี้ เป็นการพัฒนาจาก U3-X  ที่เคยออกมาโชว์ผลงานก่อนหน้านี้
                แนวคิดของการเดินทางด้วย Honda Uni-Cab  เน้นการใช้งานเฉพาะพื้นที่ โดยทำงานด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เรียกว่า Omni Drive system โดยมีลูกล้อ 2 ตัว ตัวหนึ่งใช้เคลื่อนที่และตัวหนึ่งใช้ปรับทิศทาง โดยทำงานจากการสั่งของผู้นั่งที่ถ่ายน้ำหนักไปยังตำแหน่งต่างๆ และผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกความเร็วได้เอง โดยยังมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวเสร็จสรรพ  แถมยังมีระบบสั่งการด้วยุดควบคุมมือถือด้วย
                เรื่องสมรรถนะ Honda Unicab สามารถเดินทางได้ไกลสูงสุด 6 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตร/ชั่วโมงเช่นกัน โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากชุดแบตเตอร์รี่ลิเที่ยมไออน ที่ติดตั้งในตัวของมัน
                สำหรับสัดส่วนเจ้าที่นั่งจิ๋วเคลื่อนที่ได้  Honda Unicab  นี้มันสามารถวางไว้ตรงไหนก็ได้ ด้วย ความยาวเพียง 520 ม.ม กว้าง 342 ม.ม. และสูง 745 ม.ม. และยังสามารถปรับเพิ่มได้สูงสุด 825 ม.ม
Honda  มีการเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนหน้า  Honda Unicab จะเริ่มต้นการทดสอบอย่างเป็นทางการ โดยหากได้รับความสนใจ อาจจะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงในอนาคต


วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

VW People’s Car ไอเดียรถในโลกอนาคต จากจีน

VW People’s Car ไอเดียรถในโลกอนาคต จากจีน




VW Peoples Car

เปิดตัวต้นแบบรถลอยได้ VW People's Car Project เป็นความคิดริเริ่มโดย VW ในจีน ซึ่งรถจะลอยเหนือพื้น ประมาณ 1-2 ฟุต ส่วนระบบความปลอดภัย ก็จะมีเซนเซอร์ระยะทาง ในขณะการเดินทาง เพื่อตรวจสอบวัตถุรอบๆ ตัว ดูๆ ไปก็คล้ายกับยานอวกาศเลยนะเนี่ย คงเหมาะกับการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ในโลกอนาคต เพราะตัวรถมีขนาดเล็ก และมีความคล่องตัวในพื้นที่แคบๆ



All New Toyota Corolla Japan Version เฮือกใหญ่วัดชะตากรรมคอมแพคท์ในญี่ปุ่น

Toyota Corolla ใช้เวลาเดินทางมานานถึงครบรอบ 46 ปี เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วจนไม่นึกเลยว่ามันถึงวันเปิดตัว 
Toyota Corolla เจเนเรชั่นที่ 11 ในตลาดญี่ปุ่นกันไปแล้ว ด้วยรูปแบบพิเศษสุด ๆ สำหรับตลาดญี่ปุ่นและน่าจะเป็นทลาย
กำแพงกั้นระหว่าง Toyota Corolla ตลาดโลกและตลาดญี่ปุ่นแบบแยกออกจากกันเกือบ 100% เพราะตำแหน่ง
การตลาดและจุดประสงค์การพัฒนาแทบจะเรียกว่าเป็นคนละโลกกันเลย

alt



Toyota Corolla โฉมใหม่เวอร์ชันญี่ปุ่นถือเป็นการกลับไปสู่แนวคิด Corolla ดั้งเดิมล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถที่ถูก
ออกแบบให้มีความสุขุมสงบในจิตใจ, ใช้งานได้จริงและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทุกท่าน ค้นหาความเป็นดั้งเดิมด้วยการลดขนาด
ตัวถังจนมีขนาดพอกับรถยนต์นั่งขนาดซับคอมแพคท์ของตนเองนั่นก็คือ Toyota Belta/Vios หมายความว่า Toyota 
Corolla โฉมใหม่จะพยายามฝืนยืดแนวคิดดั้งเดิมให้เป็นรถขนาดเล็กที่สามารถนำพาผู้ใหญ่ 4 คนสัญจรไปไหนมาไหนได้
อย่างสะดวก โดยไม่ได้คำนึงถึงภาพลักษณ์อะไรมากนัก ส่วน Toyota Belta/Vios ในญี่ปุ่นก็จะต้องยุติบทบาทลงไปแล้ว
หันไปเน้นตลาดโลกแทน



Toyota ตัดสินใจหั่นขนาดตัวถังซีดานนาม Axio ลง 50 มม.และตัวถังแวกอน Fielder หั่นความยาวลง 60 มม. ภายใต้
ความท้าทายใหม่ด้วยการขยายเนื้อที่หัวเข่าผู้โดยสารตอนหลังอีก 40 มม. เพิ่มเนื้อที่ห้องสัมภาระอีก 90 มม. จนมีความจุ
ประมาณ 410 มม. 





การออกแบบเริ่มนำความแปลกใหม่เข้ามาสู่ Toyota Corolla โฉมใหม่คือการขยายเนื้อที่กระจกบังลมหน้าให้กินเนื้อที่
เสาหลังคาขยายขอบเขตทัศนวิสัยรอบคันให้ได้มากที่สุด Toyota Corolla Axio ซีดานยังคงรักษาคงความมีคุณภาพและ
ศักดิ์ศรี กระจังหน้าจัดเต็มแห่งความหรู Toyota Corolla Fielder แวกอนขนาดกะทัดรัด คล่องตัว มีความอ่อนเยาว์และ
น่าดึงดูดมากขึ้น เส้นสายเรียบง่ายเน้นวัสดุรีไซเคิล

ภายในห้องโดยสารแทบจะเคาะแนวเดียวจาก Toyota GT-86 แต่เพิ่มคุณค่าความเป็น Corolla นั่นก็คือการใช้งานที่ง่าย 
ให้สัมผัสคุณภาพสูงทันทีที่เปิดประตู คอนโซลกลางติดตั้งอุปกรณ์ในตำแหน่งธรรมชาติที่สามารถเอื้อมหรือหยิบจับได้ง่าย 
เน้นรายละเอียดกระจุกกระจิกเล็กน้อย 





Toyota Corolla Axio จะติดตั้งเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่ เครื่องยนต์ 1NR-FE DOHC Dual VVT-I 16 วาล์ว 1,339 ซีซี 
ให้กำลังเพียงแค่ 69 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 9.4 กิโลกรัมเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที, เครื่องยนต์ 1NZ-
FE DOHC VVT-I 1,496 ซีซี รุ่นเกียร์ธรรมดา 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.1 กิโลกรัมเมตรที่ 
4,400 รอบต่อนาที

รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลัง 103 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.5 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที รุ่น
เกียร์ CVT ให้กำลัง 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.9 กิโลกรัมเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที 





Toyota Corolla Fielder จะติดตั้งเครื่องยนต์ 1NZ-FE DOHC VVT-I 1,496 ซีซี รุ่นเกียร์ธรรมดา 109 แรงม้าที่ 6,000 
รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.1 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลัง 103 แรงม้าที่ 6,000 รอบ
ต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.5 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที รุ่นเกียร์ CVT ให้กำลัง 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที 
แรงบิดสูงสุด 13.9 กิโลกรัมเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที 

และเครื่องยนต์ 2ZR-FAE DOHC Dual VVT-i VALVEMATIC 1,797 ซีซี 140 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิด
สูงสุด 17.5 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที 





Toyota ตั้งเป้าจำหน่าย Axio ไว้ที่ 3,000 คันต่อเดือนและ Fielder 4,000 คันต่อเดือน และลูกค้าชาวไทยคงจะโล่งใจ
เปราะหนึ่งเพราะชาวไทยจะไม่ได้ใช้รถหน้าตาแบบนี้แน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Lady Bug - ทำไมต้องเลดี้ บัค

Ladybug 
แมลงเต่าทอง
 


 
ชื่อเรียกอื่น : Ladybird, Lady Beetle 

รายละเอียดทั่วไป : “Ladybug” คือ แมลงเต่าทอง บางครั้งก็มีผู้เรียกว่า Ladybird และ Lady beetle มันจัดอยู่ในสายพันธุ์ที่มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์คือ Coccinellidae มีขนาดความยาวของลำตัวยาว 0.04 – 0.40 นิ้ว (1 – 10 มิลลิเมตร) ปีกของมันจะมีสีแดง หรือสีส้ม หรือมีบ้างที่มีสีเหลือง แต่ที่แน่ ๆ ทุกตัวจะต้องมีจุดวงกลมสีดำอยู่บนปีก 

แล้วทำไม มันจึงมีชื่อราวกับมีแต่ตัวเมียแบบนี้ มุขตลกนี้ถูกนำไปใช้ในหนังของดิสนีย์ด้วย ที่เต่าทองตัวผู้ ถูกเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงตลอดเรื่อง 

 

ถ้าเราได้ทราบประวัติความเป็นมาของชื่อนี้ จะรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นเรื่องของศรัทธาในคริสตศาสนา 

 

นอกจากนี้ ชาวยุโรปยังมีธรรมเนียมความเชื่อว่า หากว่าวันหนึ่งมีแมลงเต่าทองบินเข้ามาในสวนของคุณ หรือถ้าคุณได้ประสบพบกับมัน เชื่อกันว่านี่คือสัญลักษณ์แห่งความโชคดี 

ความเชื่อเรื่องแมลงเต่าทอง หรือ Ladybug เป็นแมลงนำโชค คงต้องเท้าความย้อนกลับไปในสมัยกลางของยุโรป ในตอนนั้นได้เกิดแมลงศัตรูพืชมาทำลายพืชผลในทุ่งนา พวกชาวนาต่างอับจนปัญญา ได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนพระแม่มารี ให้ขอต่อพระเจ้า เพื่อโปรดประทานความช่วยเหลือ 


 

เมื่อเสียงวิงวอนของชาวนาผู้น่าสงสารดังไปถึงพระแม่มารี อาศัยคำเสนอวิงวอนของพระมารดาพระเจ้า พระบิดาทรงตอบคำอธิษฐาน และได้ส่งแมลงเต่าทองตัวน้อย ๆ จำนวนมากมาจัดการกับพวกแมลงศัตรูพืชจนหมด ทำให้ช่วยรักษาพืชผลไว้ได้อย่างปลอดภัย เหล่าบรรดาชาวนา จึงพากันขนานนามเจ้าแมลงเต่าทองนี้ว่า “Ladybug” ซึ่งมาจากคำเรียกของคริสต์ศาสนิกชนยามเอ่ยพระนามของพระแม่มารีว่า “Our Lady” หรือ “แม่พระของพวกเรา” เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงเหตุการณ์ ที่พระแม่ทรงวิงวอนเพื่อพวกเขา 

ด้วยเหตุนี้คำว่า “Lady” จึงถูกนำมารวมกับ “Bug” ที่หมายถึงแมลงปีกแข็ง กลายเป็นคำเรียกแมลงเต่าทองนี้ว่า “Ladybug” มาตั้งแต่บัดนั้น 

เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น 

มีอยู่ข่าวหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องแมลงเต่าทอง ที่ย้อนรอยเหตุการณ์เมื่อครั้งสมัยกลางของยุโรปได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่เหตุการณ์ในยุคใหม่นี้เกิดขึ้นจริง ๆ 

เมื่อปลายปี ค.ศ. 1880 ในปีนั้นเกิดเหตุฝูงแมลงบินเข้ามาทำลายต้นส้มของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในครั้งนั้นชาวสวนในแคลิฟอร์เนียได้ร่วมใจกันสั่งซื้อนำเข้าแมลงเต่าทอง 1,000 ตัว จากประเทศออสเตรเลีย หลังจากนั้นภายในสองปีจำนวนแมลงศัตรูพืชก็ถูกทำลายหายไปจนหมด ต้นส้มก็ออกผลได้ดังเดิมอีกครั้ง สร้างรายได้กลับคืนสู่ชาวสวนเหมือนเดิม นี่เท่ากับว่าเจ้าแมลงปีกแข็งลายจุดตัวน้อย ๆ หรือ “Ladybug” เหล่านั้น สามารถกอบกู้วิกฤติและลดการขาดทุนทางเศรษฐกิจได้นับพันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว 




อ้างอิง-Alys R. Yablon. แปลและเรียบเรียงโดยปิยะแสง จันทรวงศ์ไพศาล. มหัศจรรย์แห่งลัญลักษณ์เครื่องรางและเคล็ดลับนำโชค. หน้าที่ 218 – 220. กรุงเทพฯ: บริษัท วี. พริ้นท์ (7991) จำกัด, 2552.