เลกซัสส่งตระกูล ‘จีเอส’ ใหม่รุกเก๋งหรู
“เลกซัส ประเทศไทย” เตรียมนำเข้าเก๋งโฉมใหม่ตระกูล “จีเอส” ท้าชนกับคู่แข่งที่ปรับโฉมไปก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์5 โดยเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่จะถึงนี้
วางคิวส่งรุ่น “จีเอส250” เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 215 แรงม้า เคาะราคาประมาณ 3.8-4.2 ล้านบาท ขณะที่ “จีเอส350” ขนาด 3.5 ลิตร 306 แรงม้า ตามมาขย่มซ้ำในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือไม่เกินงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ราคาสูงสุดประมาณ 5 ล้านบาทต้นๆ จากเดิมรุ่นจีเอส300 ราคาแตะ 6 ล้านบาท
เรียกว่างานนี้เลกซัสเปิดหน้าแลกหมัดกับคู่แข่ง ที่เป็นรถประกอบในประเทศแบบเต็มๆ ด้านรุ่นไฮบริด “จีเอส450เอช” ยังไม่อยู่แผนบุกตลาดระยะแรก คาดจะตามภายหลังในช่วงปลายปี
เก๋งหรูจากแดนปลาดิบ “เลกซัส” แบรนด์ในเครือของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” รุกตลาดรถหรูเมืองไทยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มีการเปิดตัวรถใหม่ๆ ต่อเนื่อง อย่างเมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมา เพิ่งเปิดตัว “เลกซัส ซีที200เอช” (CT200h) หลังจากส่งรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีรุ่น “อาร์เอ็กซ์270” น้องเล็กในตระกูลอาร์เอ็กซ์ (RX) ทำตลาดไปเมื่อปลายปีก่อนหน้า
ทำให้รถที่เลกซัสนำเข้ามาทำตลาดในไทย ถือว่าค่อนข้างจะครบไลน์ทีเดียว ยิ่งตระกูลหลักๆ และมีการปรับโฉมใหม่มาค่อนข้างครบ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ปกติ และรถไฮบริด เหลือเพียง “จีเอส ซีรี่ส์” (GS) ที่ถูกปลดระวาง และรอเปิดตัวโฉมใหม่สู่ตลาดแทน
ซึ่งกำหนดการณ์นั้นได้มาถึง เพื่อที่จะเปิดศึกกับคู่แข่งในตลาดเก๋งหรูขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู ที่ต่างปรับโฉมรุกตลาดไปก่อนแล้ว
สำหรับรถตระกูล “จีเอส” เปิดตัวสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี 1993 นับเป็นรถยนต์อีกรุ่นหลักอยู่คู่กันมานานกับแบรนด์เลกซัส โดยถูกวางตำแหน่งทางการตลาด ให้แข่งขันกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์5, เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส และออดี้ A6 ซึ่งใน 2 เจนเนอเรชันแรกของจีเอส
เป็นการนำรถยนต์ของโตโยต้าที่มีขายเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น หรือ JDM-Japan Domestic Model มารีแบรนด์ หรือแปะโลโก้เลกซัสในชื่อรุ่นจีเอส(หรือรุ่นอริสโตในญี่ปุ่น) มาวางขายในตลาดโลกนั่นเอง
การปรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของเลกซัส มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อโตโยต้าต้องการนำแบรนด์เลกซัสเข้าไปรุกตลาดญี่ปุ่น ทำให้เลกซัสจำเป็นต้องออกแบบรถยนต์ของตัวเองขึ้นมาใหม่ เพราะไม่สามารถใช้วิธีแบบเดิมๆ ได้อีกแล้ว
เหตุนี้โฉมใหม่ของทั้ง LS, GS(เจนเนอเรชันที่ 3) และ IS ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ส่วนรถยนต์ JDM ของโตโยต้าทั้ง 3 รุ่น คือ เซลซิเออร์, อริสโต และอัลเทสซ่า ได้ถูกถอดออกจากตลาดไป เพื่อเปิดทางให้กับการเข้ามาของเลกซัสโฉมใหม่อย่างเต็มที่
ตามมาด้วย “จีเอส350” ขนาด 3.5 ลิตร วางราคาสูงสุดประมาณ 5 ล้านบาทต้นๆ
เจนเนอเรชันที่ 3 ของรุ่นจีเอส ทำตลาดมาจนถึงปัจจุบัน และเมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวโฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชันที่ 4 ของรถตระกูลจีเอส ในงาน Pebble Beach Concours d’Elegance ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพัฒนาจากรถต้นแบบ “แอลเอฟ-จีเอช” (LF-Gh)
ด้วยการสร้างสรรค์ด้วยแนวทางการออกแบบที่เน้นความสปอร์ต แต่ยังอยู่บนพื้นฐานแนวคิดเดิมแบบ L-Finesse โดยปรับปรุงสไตล์การออกแบบมาจากรถยนต์ต้นแบบ โดยเปลี่ยนรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงบนท้องถนน
หลังจากโฉมใหม่ของเลกซัส จีเอส ได้เผยโฉมในสหรัฐอเมริกา และล่าสุดในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 ซึ่งได้มีการเปิดตัวจีเอสซีรี่ส์ครบทั้ง 3 โมเดล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รุ่น จีเอส250 (GS250), จีเอส350 (GS350) และรุ่นไฮบริด เลกซัส จีเอส450เอช(GS450h) นั่นหมายความว่าเก๋งหรูขนาดกลางตระกูล “จีเอส” พร้อมที่จะรุกตลาดทั่วโลก และนั่นรวมถึงประเทศไทย
จากรายงานข่าว เลกซัส ประเทศไทยเตรียมจะนำเข้า เลกซัส จีเอส มาเผยโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 เพียงแต่สถานการณ์ปัญหาน้ำท่วม ทำให้บรรยากาศไม่เหมาะสม จึงขยับกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2555 โดยเบื้องต้นจะทำตลาด 2 รุ่น คือ เลกซัส จีเอส250 และจีเอส350 ส่วนรุ่นไฮบริด จีเอส450เอช ยังไม่อยู่ในแผนช่วงแรกนี้ ซึ่งน่าจะมาในช่วงปลายปีเป็นลำดับต่อไป
โดยเลกซัสได้แจ้งกำหนดการณ์เปิดตัวให้กับดีลเลอร์แล้ว ซึ่งวางเปิดตัวทำตลาดก่อนกับรุ่นจีเอส250 เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 3.8-4.2 ล้านบาท นับเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ที่ประกอบในประเทศไทย
แต่เลกซัส จีเอส นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้ลดภาษีนำเข้า ตามกรอบข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Agreement between the Kingdom of Thailand and Japan for an Economic Partnership : JTEPA) หรือเจเทปป้า
ขณะที่จีเอส350 จะเปิดตัวทำตลาดหลังจากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2012 ช่วงปลายเดือนมีนาคมปีหน้า โดยราคาสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต้นๆ จากเดิมราคาของเลกซัส จีเอส300 จะอยู่เกือบ 5.4-6 ล้านบาท
รุ่นไฮบริด “จีเอส450เอช” อาจจะตามมาทำตลาดภายหลัง
ในช่วงปลายปี 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น